วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ส่อแวว รัก

ยามคุณไปสะดุดรักใครเข้า (ต๊ายตายใครยะหล่อน?) คุณสงสัยไหมว่า อีกฝ่าย (ที่คุณอยากเซ้าซี้, ตอแย, คลอเคลีย และอยากรู้เรื่องเกี่ยวกะเค้าไปซะทุกอย่าง) เค้ามีความรู้สึกกะคุณยังไงมั่ง? อู๊ย....อย่าทำเป็นส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่อยากรู้... ขอร้อง เพราะเวลามนุษย์เราปิ๊งเลิฟกะใครสักคน มีรึจะไม่อยากรู้จัก "ฝ่ายที่ตัวหมายปอง" ให้ ถี่ถ้วนทุกประการ ฮัดโธ่ มีแต่อยากรู้เรื่องโน้นเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทั้งในที่ลับและที่แจ้งของเค้าแหงๆ เช่น อยากรู้ตั้งแต่เค้าเกิดวันไหน? มีพี่น้องกี่คน? เค้าเป็นลูกคนที่เท่าไหร่? มีแฟนรึยัง เอ๊ะหรือมีแฟนเก่ามาแล้วกี่คน?....โอ้โห ข้อนี้ขอเน้นเลยว่า อยากรู้ที่ซู้ดฮาๆๆ แถมยังอยากให้ "คนที่คุณมีใจด้วย" เฉลยคำตอบในข้อที่ว่า มีแฟนรึยัง? เป็นข้อแรกซะด้วยซ้ำไป...เออเอากะตูสิ ถ้าเผื่อรู้ว่าเค้ามีแฟนแล้ว และบังเอิญความคิดชั่วร้ายดันกำเริบระงับไม่อยู่...เราก็คิดแหละว่าจะเพิ่มความพยายามจีบเค้ามากขึ้นอีกแค่ไหน เพื่อให้เค้าใจอ่อนหันมาซบอกเราแทนน่ะซี....แต่เฮ้ย ฟังแล้วทะแม่งๆแฮะ งานนี้ไม่กลัวตายก็ควรกลัวบาปกลัวกรรมบ้างนะเฟ้ย งั้นเป็นว่า หาก "คนที่คุณเล็งไว้" นั้นมีแฟนแล้ว (ไม่รู้จะรีบมีทำไม? คอยให้เจอเราก่อนก็ไม่ได้!) ก็อย่าไปเปิดตำนาน "ชั้นรักผัวเค้า" หรือ “ชั้นรักเมียเค้า” เลย เรื่องผิดศีลธรรมน่ะอย่าไปทำเชียว ไว้รอเจอใครสักคนที่โสดแต๊ๆ (โสดแท้ๆ) หรือไร้พันธะผูกพันทางใจ และทางกายกับแฟนคนเก่าของเค้าแล้ว ค่อยซิวมาเป็นแฟนกันดีกว่าเนอะ ทีนี้ล่ะจะสวีตหวานกันแค่ไหนก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องเกรงใจผู้ใดในหล้าโลกนี้ ไชโย สัปดาห์นี้ก็แม่นแล้วจ้ะ ว่าอยากฝอย เรื่องสัญญาณที่บอกว่าเค้าเลิฟยู และมีใจให้คุณอย่างยิ่งยวด แต่แทนที่จะบอกตรงๆว่าชอบคุณ...ก็ไม่หรอก แหมเขินจะตาย งั้นขอบอกในรูปสัญญาณเลิฟง่ายๆดังต่อไปนี้ละกัน อ้อ ขออุบอิบบอกกติกาก่อนว่า เค้าคนนี้จะเป็นหญิงหรือชายหรือเกย์ก็ได้นะ เพราะเวทีนี้เปิดกว้างให้กับผู้มีใจรักทุกคนฮ่ะ เอาละวา สัญญาณแรกได้แก่... 1. ให้ความสำคัญกับคุณในระดับเอลิสต์ เชียวนะเฟ้ย ไม่ใช่ให้ความสำคัญกับคุณแค่ในระดับบ๊วยลิสต์ เมื่อเค้าให้ความสำคัญอย่างที่สุดกับคุณถึงเพียงนี้ แล้วยังกังขาอีกหรือจ๊ะว่าเค้าคิดกะคุณยังไงกันแน่? แหม...ก็จะคิดไงล่ะในเมื่อมีแต่รักรักรัก รักรักเธอเท่านั้น คิดดู ถ้าเค้าไปตัดผมมา ก็อยากบอกคุณเป็นคนแรก, ถ้าวันไหนเค้าเจอเรื่องที่ทำให้มีสุขหรือทุกข์ใจ ก็เก็บมาเล่าให้คุณฟังอีก ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเล่าให้ฟังซะหน่อย ที่สำคัญ หากวันไหนตรงกับวันเกิดของคุณ วันนั้นเค้าจะทำตัวว่างเป็นพิเศษ เพื่อหวังพาคุณไปฉลองสองต่อสองอ่ะดี้ โอ้ช่างน่ารักซะจริงๆ ขอแฟนแบบนี้คนดิ่! 2. มาหาทันทีที่ว่าง หรือถ้าคุณอยากให้ เค้ามาอยู่ใกล้ๆ ก็จะไปไม่เกี่ยงงอน ขนาดไม่มีรถขับเอง ก็จะเพียรพยายามหาวิธีไหนก็ตาม ไม่ว่าจะนั่งแท็กซี่, แย่งคิวมอเตอร์ไซค์ หรือนั่งรถตู้, รถสองแถว เพื่อมุ่งไปหา "คนที่เค้ามีใจ" ก่อนใครเพื่อน ซึ่งว่าตามตรง บางทีเค้าก็ไม่รู้หรอกว่าคุณอยากเจอเค้าไหม? หวังว่าใจของเค้าคงไม่เก้อ เลิฟยูข้างเดียวนะ 3. อยากพาคุณไปหาครอบครัวและเพื่อนสนิทของเค้า อ่ะจะไม่ให้อยากทำอย่างนี้ได้ไง ในเมื่อเค้าภูมิใจที่มีคุณเป็นแฟนน่ะซี เค้าจึงไม่อยากเก็บเรื่องเกี่ยวกับคุณไว้เป็นความลับของเค้าเพียงลำพัง แต่อยากพาคุณไปโชว์ให้พ่อแม่, พี่น้อง และเพื่อนที่สนิทจริงๆ ได้รู้จักกันไว้ แต่คงไม่ถึงกับต้องประกาศให้ทั้งโลกรู้หรอกนะ เพราะ ก. คนทั้งโลกก็ไม่อยากรู้หรอกว่า แฟนของเค้าเป็นใคร? จริงปะ ยิ่งถ้าเค้าไม่ใช่ดารา, นาง-นายแบบ หรือนักร้อง, นักกีฬาชื่อดัง ก็ไม่ต้องทำอะไรให้เว่อร์เกินไปหรอก และ ข. เรื่องความรัก สำหรับบางคู่ถือเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องของคนสองคนที่จะเข้าใจกันหรือจะตบตีกันก็แล้วแต่ ว่าฝ่ายไหนจะทนรับกันได้แค่ไหนนะซี 4. มักตามใจคนเลิฟ ไม่ใช่เอาแต่ใจตัวเค้าเอง แหม ข้อนี้อยากฝอยมากเลยฮ้า เอ้าหากรักกันจริง "คนมีความเลิฟ" ส่วนใหญ่ก็มักตามใจแฟนทั้งนั้น บางครั้งอาจตามใจในสิ่งที่ไม่มีเหตุผล หรือตามใจในสิ่งที่หน่อมแน้มซะด้วยซ้ำ เพราะงี้ ถ้าใครบอกรักคุณ ทว่าโคตรเอาแต่ใจตัวเค้าเองเลย หยั่งงี้ก็ประหลาดว่ะ เอ๊ะมันรักคุณหรือว่ารักตัวเองกันแน่ฟะ เอ้าหาคนที่แยกแยะเรื่องพวกนี้ให้ได้ละกัน แต่พูดก็พูด เรามักเจอคนแบบนี้มากกว่าคือ ตอนแรกก็ตามใจแฟนดีหรอก แต่นานๆเข้า รักชักสนิมเกาะ ดังนั้น จากเคยตามใจ เลยกลายเป็นมึงอยากทำอะไรก็ทำไป อ้าว...ไหงเป็นงี้ไปได้เนี่ย 5. อยากวางแผนชีวิตคู่ร่วมกะคนที่เค้าเลิฟ ไม่งั้นจะให้คิดสะระตะวางแผนชีวิตนี้กะใครล่ะ เมื่อมีความรักก็มักอยากพูดคุย, อยากฟังความคิดเห็น และอยากใช้เวลาที่เค้าเหลืออยู่ในชีวิตนี้ร่วมกะ "คนที่ใช่" มากกว่า ขอเพียงเจอ "คนที่มาร่วมกันฝันค้าง" เอ๊ย ช่วยกันปั้นฝันให้เป็นจริงก่อนเหอะว้า แล้วรับรองอนาคตของคู่รักคู่นี้แจ่มแจ๋วแน่นอน แต่การวางแผนชีวิตคู่ก็ต้องดูเหมือนกันนะว่า แฟนของคุณเค้ารับกะแผนในระยะสั้น, ปานกลาง หรือยาวนานได้แค่ไหน? ดังนั้น ก่อนทำอะไรก็ควรค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ปรึกษาหารือ อย่าบุ่มบ่ามขีดเส้นให้แฟนเดินตามกรอบที่คุณเขียนไว้ ไม่งั้นคงอึดอัดน่าดู 6. ขยันส่งความรักหากัน เดี๋ยวก็ส่ง sms มา และหรือไม่ก็โทรศัพท์วันละหลายหน เพราะนี่ไงล่ะฮ้าที่เค้าเรียกว่า "รัก"

ไม่มีความคิดเห็น: